ในโอกาสนี้ รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้กล่าวชื่นชมน้อง ๆ ที่ได้นำสภาพปัญหาใกล้ตัวที่เกิดขึ้นในชุมชน มาคิดวิเคราะห์และสร้างเป็นนวัตกรรมการบริหารจัดการน้ำที่พอเพียงและไม่สูญเสียสำหรับน้ำในนาข้าว และนำองค์ความรู้เรื่อง "เปียกสลับแห้งแกล้งข้าว" มาประยุกต์ใช้ควบคู่กับการนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์สั่งการให้เครื่องควบคุมและคำนวณระดับน้ำอัตโนมัติโดยใช้พลังงานไฟฟ้าและพลังงานแสงอาทิตย์ สามารถปรับเพิ่มหรือลดปริมาณน้ำได้ตามความต้องการผ่านการควบคุมด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยเครื่องดังกล่าว จะสั่งการให้สูบน้ำเข้าพื้นที่นาอัตโนมัติ เป็นการช่วยอำนวยความสะดวกแก่เกษตรกรโดยไม่ต้องมาเฝ้าในพื้นที่ สามารถประกอบอาชีพเสริมอื่น ๆ เพื่อสร้างรายได้แก่ครัวเรือนเพิ่มเติม และยังพัฒนาต่อยอดการรดน้ำอัตโนมัติอีกด้วย โดยความร่วมมือกับเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงเรียน เกษตรชุมชน วิสาหกิจชุมชน ปราชญ์ชาวบ้าน ในการดำเนินโครงการ

นอกจากนี้ ได้แนะนำให้จัดทำและเผยแพร่ข้อมูลการใช้เครื่อง การเก็บ และการบำรุงรักษา และขยายผลทำเป็นศูนย์เรียนรู้ในโรงเรียน หรือนำนวัตกรรมนี้ไปประยุกต์ใช้ในภาคการเกษตรอื่น ๆ เช่น สวนผลไม้ แปลงผัก ก็จะช่วยสร้างรายได้แก่เกษตรกร รวมถึงแนะนำให้มีการเก็บข้อมูลเชิงประจักษ์และประสานงานกับหน่วยงานภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง นำความรู้มาพัฒนานวัตกรรม จัดทำเป็นมาตรฐานในการใช้งาน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือต่อผู้บริโภค และแนะนำให้ต่อยอดเป็นธุรกิจ ทำให้สามารถสร้างรายได้ให้แก่น้อง ๆ ได้อย่างแท้จริง